#mbrunblog

ประเภทของไฟล์เสียงต่างๆ

ประเภทของไฟล์เสียงต่างๆ

ไฟล์เสียงมีหลากหลายชนิด ดูเผินๆ จะคิดว่าไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วมันต่างกันมาก แล้วมันต่างกันยังไง วันนี้จะมาแบ่งประเภทให้ดูกัน!


 
ประเภทของไฟล์เสียง
 
 
 
1. โดยทั่วไปแล้ว ไฟล์เสียงจะถูกแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ
 
      • Uncompressed Audio: ไฟล์เสียงชนิด Raw/ Uncompressed ที่ไม่ผ่านการบีบอัดใด ๆ ซึ่งจะมีคุณภาพเสียงดีที่สุด ตรงตามฉบับที่สุด และขนาดไฟล์ใหญ่ที่สุด
      • Lossless Audio: ไฟล์เสียงที่ผ่านการบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล (Lossless Data Compression) คุณภาพเสียงจะดีใกล้เคียงกับ Uncompressed Audio แต่จะมีขนาดไฟล์ที่เล็กกว่า
      • Lossy Audio: ไฟล์เสียงที่ผ่านการบีบอัดมาแบบสูญเสียข้อมูล ไฟล์จะมีขนาดเล็กที่สุด ไม่เปลืองพื้นที่หน่วยความจำ แต่แลกมาด้วยคุณภาพเสียงที่ลดลงอย่างชัดเจน

 
 
ไฟล์เสียงแต่ละประเภทมีไฟล์อะไรบ้าง
 
 
Audio Files ComparisonUncompressedLosslessLossy
File extensionWaveform Audio (.wav)Free Lossless Audio Codec (.flac)MPEG-1 Audio Layer 3 (.mp3)
 Audio Interchange File Format (.aiff)MPEG-4 Audio (.m4a)Windows Media Player (.wma)
  Monkey’s Audio (.ape)Ogg Vorbis (.ogg)
  CD Audio (.cda)Advanced Audio Coding (.aac)
 
 

 
 
เจาะลึกไฟล์เสียงแต่ละไฟล์
 
 
Files Comparison.wav.aiff.flac.m4a.ape.cda.mp3.wma.ogg.aac
TypeUncompressedUncompressedLosslessLosslessLosslessLosslessLossyLossyLossyLossy
Developed byIBM และ MicrosoftAppleพัฒนาต่อมาจากไฟล์ aac โดยบริษัท Appleค่าย Monkey’s Audioพัฒนามาจากการบีบอัดไฟล์ wavMicrosoft เป็นไฟล์มาตรฐานสำหรับ WindowsApple
Standard useเป็นไฟล์เสียงมาตรฐานสำหรับ Windowsไฟล์พื้นฐานสำหรับใช้บน Mac และ iOSไฟล์ที่ผ่านกระบวนการบีบอัดข้อมูลแบบ Lossless (ไม่เสียคุณภาพ)ลักษณะเหมือนไฟล์ wav แต่ถูกบีบอัดลงไว้ในแผ่นซีดีเป็นไฟล์เสียงที่ได้รับความนิยมที่สุดในปัจจุบัน และมีการพัฒนาต่อเป็น mp4คุณภาพเสียงใกล้เคียงกับ mp3ใช้เทคโนโลยีการบีบอัดแบบใหม่ ขนาดเล็กกว่า mp3รองรับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการหลากหลาย
Featureไม่ผ่านการบีบอัด จึงให้คุณภาพเสียงดีที่สุด ให้เสียง Stereo ได้ แต่ขนาดไฟล์ใหญ่มากขนาดไฟล์และคุณภาพเสียงใกล้เคียงกับ wavไฟล์ขนาดเล็ก โดยที่ข้อมูลเสียงไม่สูญเสียไป คุณภาพเสียงดีผ่านกระบวนการบีบอัดที่มีประสิทธิภาพกว่าไฟล์ aac ได้ขนาดเล็กกว่าขนาดไฟล์และคุณภาพใกล้เคียง flac และ m4aคุณภาพเสียงดีใกล้เคียง wav ขนาดไฟล์ค่อนข้างใหญ่ แต่ไม่สามารถเอาไฟล์ลงเครื่องได้เหมือนชนิดอื่น ๆ นอกจากจะใช้โปรแกรมพิเศษไฟล์มีขนาดเล็กกว่าไฟล์ wav ถึง 10-12 เท่า จึงสามารถอัดไฟล์เพลง MP3 นับร้อย ๆ พัน ๆ ลงในซีดีแผ่นเดียวได้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยีการฟังเพลง แต่คุณภาพเสียงถูกลดทอนจากไฟล์ wav อย่างชัดเจนรองรับการ Streaming ผ่านอินเทอร์เน็ท และขนาดเล็กกว่า mp3ถึง 3 เท่ารองรับการ Streaming ผ่านอินเทอร์เน็ท แต่ยังไม่สามารถเล่นบน Windows Media Player หรือ iTunes ได้มีคุณภาพเสียงที่ดีกว่า mp3 ในอัตราบิทเรทเท่า ๆ กัน และมีขนาดไฟล์เล็กกว่า mp3 ประมาณ 30%